หน้าฝนแบบนี้หนึ่งในโลกที่เป็นโรคร้ายสำหรับเด็ก ๆ เลยก็ต้องขอยกให้กับโรคมือเท้าปากที่บ้านไหนมีเด็กก็แทบจะเป็นกันทุกบ้านแต่โชคดีที่โลกนี้ยังพอมีวิธีการปกป้องและการสังเกตอาการให้เห็นได้อย่างเด่นชัดอยู่ซึ่งเราจะพาคุณไปทำความรู้จักกับโรคมือเท้าปากให้มากยิ่งขึ้นว่าโรคนี้คืออะไรและมีวิธีการสังเกตรวมไปถึงวิธีการเฝ้าระวังอย่างไรให้ห่างไกลกันบ้างมาดูกันได้เลย
ทริคง่าย ๆ ปกป้องลูกน้อย จากโรคมือเท้าปาก
โรคมือเท้าปากหรือ Hand Foot And Mouth disease เป็นโรคที่พบได้บ่อยในช่วงหน้าฝนเกิดจากไวรัสกลุ่ม entero 71 ส่งผลให้มีไข้และเป็นแผลในปากรวมไปถึงมีตุ่มน้ำใสตามบริเวณฝ่ามือฝ่าเท้าลำตัวและอวัยวะเพศอีกทั้งยังเป็นโรคที่สร้างความกังวลใจให้กับพ่อแม่และผู้ปกครองอยู่ไม่น้อยแต่อย่างไรก็ตามยังสามารถพบโรคนี้ในผู้ใหญ่ที่มีภูมิคุ้มกันน้อยได้อีกเช่นเดียวกันแต่จะมีอาการที่ไม่รุนแรงมากเข้าในเด็กเล็ก
อาการของโรคมือเท้าปาก
- มีไข้อ่อนเพลียงอแง
- มีแผลในปาก
- มีผื่นเป็นจุดแดงขึ้นที่บริเวณมือเท้าและในลำคอจะมีเม็ดเป็นตุ่มใส ๆ เกิดขึ้นคล้ายผังผืด
- เจ็บคอทานอาหารไม่ได้ดื่มนมได้น้อย
ซึ่งเนื้อเชื่อโรคเข้าสู่ร่างกายจะใช้ระยะเวลาฟักตัวประมาณ 3-7 วันซึ่งผู้ป่วยจะมีอาการแรกเริ่มคือมีไข้สูงประมาณ 38 ถึง 39 องศาเซลเซียสและอาการอื่น ๆ จะตามมาภายใน 1-2 วันไม่ว่าจะเป็นอาการเจ็บคอไม่อยากอาหารหรืออ่อนเพลียมีเม็ดตุ่มหรือผื่นขึ้นรวมไปถึงแผลอักเสบที่ผิวหนังฝ่ามือฝ่าเท้าและบริเวณปากทั้งภายนอกภายในรวมไปถึงอวัยวะเพศได้อีกด้วย ซึ่งเด็ก ๆ จะมีอาการเหล่านี้อยู่ภายในร่างกายประมาณ 7-10 วันและสามารถหายได้เอง
แต่สำหรับเด็กเล็กช่วงอายุประมาณ 1 ถึง 3 ขวบเมื่อเกิดโรคนี้ขึ้นควรรีบไปพบแพทย์ทันทีเพราะโลกนี้ส่งผลร้ายต่อเด็ก ๆ ถึงชีวิตเลยทีเดียวซึ่งเมื่อมีอาการอื่น ๆ แทรกซ้อนไม่ว่าจะเป็นมีไข้สูงอย่างรุนแรงลูกมีอาการซึมมือสั่นเดินเซหรือแม้กระทั่งกล้ามเนื้อกระตุกและชักเกร็งควรที่พบแพทย์โดยทันทีเพราะอาการแทรกซ้อนเหล่านี้อาจจะไม่สัมพันธ์กับจำนวนแผลตามบริเวณร่างกายซึ่งอาจอันตรายมากกว่าที่คิด
และที่ดีการรักษาสุขอนามัยของลูกถือเป็นสิ่งสำคัญมากที่สุดที่จะช่วยปกป้องและป้องกันให้ห่างไกลจากโรคมือเท้าปากได้อย่างเห็นได้ชัดเพราะในหน้าฝนแน่นอนว่าเชื้อโรคที่เป็นอันตรายรวมไปถึงแบคทีเรียต่าง ๆ จะสะสมอยู่ได้มากกว่าในฤดูอื่น ๆ ดังนั้นการอาบน้ำให้สะอาด และการใช้ผลิตภัณฑ์ที่ช่วยเพิ่มความปลอดภัยให้กับสุขภาพของลูกน้อยได้มากยิ่งขึ้นจึงเป็นอีกหนึ่งแนวทางที่ช่วยป้องกันให้ห่างไกลจากโรคมือเท้าปากได้นั่นเอง