
ทำไม Self-Esteem ถึงสำคัญกว่าแค่ความเก่ง ?
เด็กที่ขาดความนับถือตัวเอง มักรู้สึกว่าตัวเอง “ไม่ดีพอ” แม้จะเรียนดีหรือชนะรางวัลก็ตาม ความรู้สึกนี้จะติดตัวไปจนโต ทำให้ชีวิตเต็มไปด้วยความกดดันและความสุขที่เปราะบาง
ดร. Amanda Lochrie นักจิตวิทยาเด็กจาก Nemours Children’s Health กล่าวว่า “Self-Esteem คือเกราะป้องกันใจลูกจากโลกภายนอก เมื่อเขาเชื่อว่า ‘ฉันทำได้’ และ ‘ฉันมีค่า’
ไม่มีอะไรมาทำร้ายจิตใจเขาได้ง่าย ๆ”
ไม่มีอะไรมาทำร้ายจิตใจเขาได้ง่าย ๆ”
9 วิธีสร้าง Self-Esteem ให้ลูก ตั้งแต่เล็กจนโต
1. ฝึกทักษะทีละขั้น เริ่มจากเรื่องง่าย ๆ เช่น ให้ลูกสวมเสื้อเอง แม้จะใช้เวลา 10 นาที หรือให้เขาลองปั่นจักรยานล้มลุกคลุกคลาน
เคล็ดลับ: ไม่ช่วย จนกว่าลูกจะร้องขอ บอกเขาว่า “แม่รู้ว่ายาก… แต่ลูกทำได้แน่”
2. ชมที่ “ความพยายาม” ไม่ใช่ผลลัพธ์
คำชมที่ทำร้าย: “ลูกเก่งที่สุดเลยที่ได้ที่ 1!”
คำชมที่สร้างพลัง: “แม่ภูมิใจที่ลูกฝึกฝนจนแข่งชนะ!”
เหตุผล: การชมที่กระบวนการทำให้ลูกไม่กลัว และรู้ว่าความพยายามคือสิ่งสำคัญ
3. บอกความจริง… แต่ไม่ตัดกำลังใจ
เมื่อลูกทำไม่ดี อย่าโกหกว่า “ไม่เป็นไร” แต่ให้พูดว่า
“แม่อยากให้ลูกแก้จุดนี้ในเกมหน้า แต่แม่ชอบที่ลูกไม่ยอมแพ้!”
แล้วเสริม: “คราวหน้าลูกต้องทำได้ดีกว่านี้แน่!”
4. เป็นตัวอย่างที่ดี
ลูกสังเกตทุกอย่างที่คุณทำ! หากคุณบ่นว่า “แม่ทำอาหารไม่เก่งเลย”
ลูกจะเรียนรู้การมองตัวเองในแง่ลบ
ทดแทนด้วย: “วันนี้แม่ลองสูตรใหม่ ครั้งหน้า แม่จะปรับให้ดีขึ้น!”
5. หยุดตีตราลูก
คำพูดทำร้าย: “ทำไมขี้ลืมแบบนี้!”
คำพูดสร้างสรรค์: “คราวหน้าลองทำแบบนี้ดูนะคะ”
เหตุผล: เด็กเชื่อทุกคำที่พ่อแม่บอก หากได้ยินบ่อยๆ เขาจะคิดว่าเป็นจริง
6. มองจุดแข็ง ไม่จับผิด
หากลูกไม่เก่งคณิตฯ แต่ชอบวาดรูป ให้ส่งเสริมศิลปะแทนการย้ำจุดอ่อน
วิจัยพบ: เด็กที่โฟกัสจุดแข็งมี Self-Esteem สูงกว่า 2 เท่า!
7. บันทึกความสำเร็จวันละ 3 ข้อ
ก่อนนอน ชวนลูกคุย:
วันนี้ลูกภูมิใจตัวเองเรื่องอะไร ?
อะไรที่ทำได้ดีกว่าเมื่อวานนี้ ?
ผลลัพธ์: สมองลูกจะถูกฝึกให้มองหาแสงสว่างแม้ในวันที่แย่
8. คบเพื่อนดี มีชัยไปกว่าครึ่ง
สอนลูกว่าเพื่อนแท้คือคนที่:
• ชมเมื่อลูกทำดี
• ไม่ล้อ เมื่อลูกผิดพลาด
• ชวนกันทำกิจกรรมสร้างสรรค์
9. ให้ลูกเป็น “ผู้ให้”
Self-Esteem เกิดเมื่อรู้ว่าตัวเองมีคุณค่า เช่น
• ช่วยคุณแม่ล้างจาน
• อาสาเป็นติวเตอร์เพื่อน
• บริจาคของเล่นให้เด็กขาดโอกาส
คำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญ
ดร. Amanda Lochrie ย้ำ: “Self-Esteem ไม่ได้เกิดจากการถูกชมตลอดเวลา แต่เกิดจากการที่ลูก ‘รู้สึกปลอดภัย’ ที่จะลองและล้มเหลว โดยมีพ่อแม่คอยสนับสนุน”