
ฝนตก เปียกเหงื่อ แต่ยังหอมได้อยู่มั้ย? ถ้าเป็นเมื่อก่อนแค่เดินตากฝนแป๊บเดียว กลิ่นหอมจากน้ำหอมก็แทบจะละลายหายไปกับอากาศ แต่ตอนนี้ไม่เหมือนเดิมแล้ว เพราะ โลชั่นน้ำหอม กลายมาเป็นไอเท็มที่สายหอมต้องมีติดโต๊ะเครื่องแป้ง โดยเฉพาะกับ Aura โลชั่น ที่มาแรงในกลุ่ม Gen Z ด้วยกลิ่นที่ไม่ใช่แค่หอมธรรมดา แต่มีคาแรกเตอร์เฉพาะตัว ติดทน และพร้อมสู้ฝนอย่างมั่นใจ บทความนี้จะพาไปรู้จักกับ 3 กลิ่นเด็ดของ Aura โลชั่น ที่คนรุ่นใหม่บอกต่อกันว่าหอมฟุ้งจนคนเหลียวหลัง
กลิ่นหอมกับบุคลิกที่ใช่ ช่วยสร้างออร่าให้ทุกวันไม่จำเจ
ไม่ใช่แค่กลิ่นหอมแล้วจบ แต่ Aura โลชั่นทั้ง 3 สูตรยังมีบุคลิกที่แตกต่างเหมาะกับไลฟ์สไตล์ของแต่ละคน เพราะกลิ่นหอมก็เหมือนกับลายเซ็นที่สะท้อนความเป็นตัวเองได้ชัดเจนที่สุด
สิ่งที่น่าสนใจของแต่ละกลิ่น มีดังนี้
- กระเจี๊ยบ & มัลเบอร์รี่ – หอมสะอาดแบบคุณหนู มีความแพงแต่อ่อนหวาน
สำหรับสายคลีน สายหวานละมุน กลิ่นนี้ให้ฟีลผู้หญิงเรียบร้อยน่าทะนุถนอม หอมสะอาดเหมือนเพิ่งอาบน้ำเสร็จ เนื้อโลชั่นชุ่มชื่นไม่เหนอะหนะ เหมาะกับคนผิวแห้ง มีสารต้านอนุมูลอิสระจากกระเจี๊ยบและมัลเบอร์รี่ พร้อมวิตามิน B3 ที่ช่วยให้ผิวใสและอิ่มน้ำ
- มัลเบอร์รี่ & โยเกิร์ต – หอมลึก นุ่มนวล เย้ายวนแบบมีชั้นเชิง
กลิ่นนี้สำหรับคนที่ชอบความลึกลับนิด ๆ แต่ชวนให้น่าค้นหา หอมแบบหรูหรา แต่ไม่แรงจนแสบจมูก เนื้อโลชั่นนุ่มมาก ช่วยให้ผิวน่าสัมผัส เหมาะกับทุกสภาพผิว ส่วนผสมจากโยเกิร์ตช่วยผลัดผิว ทำให้ผิวเนียนนุ่มแบบดูสุขภาพดี
- ฮันนี่ & เลม่อน – หวานซ่อนเปรี้ยว สดใส สายแอคทีฟห้ามพลาด
สำหรับคนเฟรนด์ลี่ สนุกสนาน และมั่นใจ กลิ่นนี้คือคำตอบ เพราะให้ฟีลเด็กสาวสดใส มีพลัง พร้อมลุยแม้วันฝนตก ด้วยความบางเบาของเนื้อโลชั่นที่เหมาะกับผิวมัน ซึมไว ไม่เหนอะ แถมยังช่วยบำรุงและปกป้องผิวจากรังสี UV ได้ในตัว
แต่ละกลิ่นของ Aura โลชั่น ไม่ได้มีดีแค่หอมอย่างเดียว แต่ยังช่วยดูแลผิวในช่วงหน้าฝนได้อย่างครบสูตร ไม่ว่าจะเป็นการเพิ่มความชุ่มชื่น ปกป้องจากแดด และลดกลิ่นเหงื่อจากความชื้น ใครที่กำลังมองหาโลชั่นกลิ่นหอมติดทน หรืออยากเริ่มใช้ โลชั่นใช้หน้าฝน ที่ไม่กลัวกลิ่นหาย Aura โลชั่นทั้ง 3 สูตรนี้คือคำตอบที่ควรลองอย่างจริงจัง เพราะนอกจากจะช่วยให้ผิวดูดี กลิ่นยังเป็นเอกลักษณ์ไม่เหมือนใคร และแน่นอนว่า หอมจนคนทัก แม้ในวันฝนพรำก็ยังมีออร่าจับได้ไม่ยากเลย