ช่วงนี้หลายคนเริ่มได้ยินข่าวเรื่อง “ไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ A” กลับมาระบาดอีกครั้ง โดยเฉพาะในกลุ่มเด็กและคนทำงานที่ต้องอยู่ในพื้นที่แออัด ซึ่งโรคนี้แม้จะดูเหมือนไข้หวัดทั่วไป แต่จริง ๆ แล้วมีความรุนแรงกว่ามาก เพราะสามารถพัฒนาไปสู่ภาวะแทรกซ้อนอันตราย เช่น ปอดอักเสบ หรือระบบหายใจล้มเหลวได้ บทความนี้จะพาไปทำความเข้าใจว่าไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ A เกิดจากอะไร อาการเป็นแบบไหน และเราจะดูแลตัวเองให้ปลอดภัยได้อย่างไร
ทำความรู้จักไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ A
ไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ A เป็นโรคติดเชื้อไวรัสที่เกิดจากเชื้อ Influenza type A virus ซึ่งมักเปลี่ยนสายพันธุ์อยู่เสมอ ทำให้ร่างกายสร้างภูมิคุ้มกันได้ยาก การระบาดครั้งนี้ส่วนใหญ่เกิดจากเชื้อชนิด H1N1 ที่เป็นสายพันธุ์เดียวกับโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 ที่เคยแพร่ทั่วโลก จุดเริ่มต้นของการติดเชื้อเกิดจากการหายใจเอาละอองฝอยที่มีเชื้อไวรัสเข้าไป หรือสัมผัสสิ่งของที่ปนเปื้อนเชื้อแล้วนำมาสัมผัสจมูกและปากโดยไม่รู้ตัว
หลังได้รับเชื้อ ร่างกายจะเริ่มแสดงอาการภายใน 1–4 วัน โดยอาการจะคล้ายไข้หวัดทั่วไปแต่รุนแรงกว่า เช่น ไข้สูงเฉียบพลัน หนาวสั่น เจ็บคอ ปวดหัว ไอแห้ง ๆ น้ำมูกไหล เหนื่อยง่าย และปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ บางรายอาจมีอาการคลื่นไส้ อาเจียน หรือท้องเสียร่วมด้วย โดยเฉพาะในเด็กเล็กและผู้สูงอายุที่มีภูมิต้านทานต่ำ
อันตรายและสัญญาณที่ควรระวัง
แม้หลายคนอาจหายได้เองภายใน 5–7 วัน แต่ในบางกรณีโรคนี้สามารถลุกลามจนเป็นอันตรายได้ หากพบอาการต่อไปนี้ควรรีบพบแพทย์ทันที
- ไข้สูงเกิน 38 องศาเซลเซียสต่อเนื่องหลายวัน
- หายใจเร็ว เหนื่อย หอบ หรือแน่นหน้าอก
- ปวดเมื่อยรุนแรง ปวดหัวมากจนทนไม่ไหว
- เด็กเล็กมีอาการชักจากไข้สูง
- อาการไม่ดีขึ้นหลังรับยาลดไข้ทั่วไป
กลุ่มเสี่ยงที่ต้องระวังเป็นพิเศษ ได้แก่ เด็กอายุต่ำกว่า 5 ปี ผู้สูงอายุ หญิงตั้งครรภ์ ผู้ที่มีโรคประจำตัว เช่น เบาหวาน โรคหัวใจ หรือภูมิคุ้มกันบกพร่อง เพราะร่างกายจะตอบสนองต่อเชื้อได้ช้ากว่าคนทั่วไป
วิธีป้องกันไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ A
การป้องกันที่ดีที่สุดคือการฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ประจำปี ซึ่งช่วยลดความรุนแรงของอาการได้มาก นอกจากนี้ยังควรดูแลสุขภาพพื้นฐานให้แข็งแรงและหลีกเลี่ยงการสัมผัสเชื้อโดยตรงด้วยวิธีต่อไปนี้
- ล้างมือบ่อย ๆ ด้วยสบู่หรือแอลกอฮอล์เจล
- หลีกเลี่ยงการอยู่ใกล้ผู้ป่วยหรือสถานที่แออัด
- สวมหน้ากากอนามัยเมื่ออยู่ในพื้นที่สาธารณะ
- พักผ่อนให้เพียงพอ ดื่มน้ำมาก ๆ และกินอาหารที่มีประโยชน์
- หากป่วย ควรหยุดพักและไม่ไปโรงเรียนหรือที่ทำงาน เพื่อป้องกันการแพร่เชื้อ
ไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ A อาจไม่ใช่โรคใหม่ แต่ยังคงเป็นภัยที่ไม่ควรมองข้าม การรู้เท่าทันอาการและดูแลสุขภาพให้แข็งแรงอยู่เสมอคือเกราะป้องกันที่ดีที่สุด เพราะโรคนี้ติดต่อกันได้ง่ายและอาจสร้างภาวะแทรกซ้อนร้ายแรงหากละเลยสัญญาณเตือน การใส่ใจสุขภาพพื้นฐานอย่างต่อเนื่องและการฉีดวัคซีนประจำปีจึงเป็นสิ่งที่ควรทำตั้งแต่วันนี้ เพื่อให้ร่างกายพร้อมรับมือทุกการระบาดโดยไม่ต้องกังวลอีกต่อไป











